ACSA (Thailand) Program (Th)

ACSA Thailand ทุนการศึกษาต่อในระดับ ปริญญาตรี

American University Scholarship Program
โครงการทุนการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา (ระดับปริญญาตรี)

รายละเอียด

เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้กับผู้ที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่หกและผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีที่ต้องการไปศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกาในสาขาต่างๆในระดับปริญญาตรี โดยสามารถขอเข้ารับทุนได้จาก American Collegiate Scholarship Association (ACSA) ผ่านทาง Providence Education Language Immersion Camp (PELIC) ตัวแทนแต่ผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ให้คัดเลือกนักศึกษาเป็นจำนวน 100 ทุนต่อปี จากมหาวิทยาลัยประมาณ 70 ถึง 200 แห่งทั่วประเทศ นักเรียนทุกคนสามารถรับทุนได้ ถ้าจบมัธยมหก คะแนนเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.0 และผู้ ปกครองสามารถที่จะจ่ายที่เหลือจากทุนที่ได้รับ ไม่ต่ำกว่าปีละห้าแสนกว่าบาทขึ้นไป ซึ่งโดยปกติค่าใช้ จ่ายในการเรียนในระดับปริญญาตรีในอเมริกาจะมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าล้านกว่าบาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจและตั้งใจของบุคคลนั้นที่อยากเรียนรู้ การมีส่วนร่วม และ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในสถาบันการศึกษา ที่มีบรรยากาศของนานาชาติจากส่วนต่างๆ ทั่วโลก โดยไม่ได้เน้นเอาคนที่เรียนเก่งอย่างเดียวเท่านั้น โดยมีจุดเด่นของโครงการนี้ 2 ประเด็นสำหรับผู้ที่ได้รับทุนจากโครงการนี้ คือ การได้รับทุนการศึกษาสำหรับค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและค่าอาหารในแต่ละปี ประมาณ 30% ถึง 75% ต่อปีโดยไม่ต้องชำระคืน และการได้รับข้อเสนอให้ทุนจากสถานศึกษา 5 – 7 แห่งได้ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับคะแนนเกรดเฉลี่ย วิชาเอกหรือสิ่งแวดล้อมที่ผู้เรียนต้องการ

ความเป็นมา

American Collegiate Scholarship Association (ACSA) เป็นสมาคมที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการให้ทุนการศึกษา (American University Scholarship Program) แก่นักเรียน นักศึกษาจากทั่วโลก สมาคมนี้ตั้งมาเมื่อปีค.ศ. 1997 และได้ให้ทุนแก่นักศึกษาไปแล้วกว่า 10,000 คนจากทั่วโลก โครงการนี้เป็นการร่วมมือระหว่าง ACSA และ องค์กร IDEA ของอเมริกา โดยมี Mr. Samuel M. Shepherd เป็น President ของโครงการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนนานาชาติสามารถที่จ่ายค่าเรียนในมหาวิทยาลัยในอเมริกาได้และได้เรียนตามที่ใฝ่ฝันไว้ โดยการได้รับทุนดังกล่าว
ACSA มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อช่วยพัฒนานักเรียนต่างชาติเป็นหลัก ทั้งนี้เนื่องจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาเล็งเห็นคุณค่าของความหลากหลายทางวัฒนธรรมของนักเรียน ในการเสริมสร้างการเรียนรู้ในชุมชนและชั้นเรียน ดังนั้นจึงให้การสนับสนุนเพื่อรักษานักเรียนทุนต่างชาติของ ACSA ไว้
โครงการนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนทุนนานาชาติของ ACSA อย่างมาก เพราะนักเรียนเหล่านี้จะมีโอกาสได้เข้าศึกษาในสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับสูงของสหรัฐอเมริกา และจะได้รับปริญญาที่เป็นที่ยอมรับอย่างมากในตลาดแรงงานทั้งในประเทศและระดับสากลโปรแกรมนี้ประสบความสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นในการให้ทุนการศึกษาและการหามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาให้นักเรียน

รายละเอียดของการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ในอเมริกา

There are three Main Types of U.S. Colleges and Universities การศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะมีอยู่ด้วยกันสามรูปแบบดังต่อไปนี้;

  1. Liberal Arts Colleges
    Liberal Arts Education (ศิลปศาสตร์) เป็นรูปแบบการสอนของอเมริกามาเป็นเวลาอันยาวนาน เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ในวิชาต่างๆและจนกระทั่งสามารถที่จะ focus ในวิชาที่ต้องการเรียนจริงๆหลังจากการเรียนในปีที่สองหรือหลังจากนั้น ซึ่งจะเน้นในรูปแบบของศิลปฯ มนุษย์วิทยา สังคมและวิทยาศาสตร์ ทำให้นักศึกษามีความรู้กว้างขวาง พัฒนาความเป็นผู้รู้ สามารถแก้ไขปัญหาด้วย คิดอย่างสร้างสรรค์และวิเคราะห์ในเชิงลึก (Thinking creatively and analytically)
    วิทยาลัยก็จะมีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ขนาดเล็กก็จะมีนักศึกษาประมาณ 500 ถึง 10,000 คน และนักศึกษาจะอยู่ในหอพัก การดูแลเอาใจใส่นักศึกษาดีกว่ามหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ ส่วนการที่มีนักศึกษาจากหลากหลายวัฒนธรรมก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นที่ต้องการสำหรับนักศึกษาอเมริกันที่จะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมอื่นๆ อีกด้วย
  2. Universities and Colleges
    ในประเทศสหรัฐอเมริกา ความหมายของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยคือสิ่งเดียวกัน ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของพื้นที่และจุดประสงค์ของสถาบันนั้นๆ วิทยาลัยก็จะมีขนาดเล็กกว่าและ focus ในระดับปริญญาตรี ส่วนมหาวิทยาลัยก็จะ focus ในส่วนของงานวิจัย (research)และการสอนในระดับปริญญาโทและเอก
  3. Specialized Colleges
    วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเฉพาะทาง มุ่งสอนในวิชาเดียว (single field or subject) เช่น การบริหารธุรกิจ ศิลปะ การเต้น ดนตรี ฯลฯ

รายละเอียดของทุนที่จะได้รับ

สำหรับทุนจาก ACSA จะเป็นทุนทึ่ได้มาจากมหาวิทยาลัยต่างๆในทั่วประเทศ โดยแบ่งทุนออกเป็นสองชนิดโดยนักเรียนหนึ่งคนสามารถรับทุนได้ทั้งสองชนิดหรือรวมเป็นเวลา 5 ปี ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ทุนภาษาอังกฤษ
เป็นทุนเพื่อเรียนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัย สำหรับผู้ที่ยังไม่มีผลสอบภาษาอังกฤษตามที่แต่ละมหาวิทยาลัยต้องการ ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. ทุนที่จะได้รับไม่เกิน 1 ปี
  2. เวลาการเรียนภาษาอังกฤษ ก็จะเปิดเป็นสองเทอมเช่นเดียวกับการเรียน
    ในระดับปริญญาตรี

    • Fall semester starts from Middle or end of Aug.
    • Spring semester starts from Middle of January.
  3. นักเรียนสามารถที่จะไปเรียนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยเดียวกันที่
    ได้รับทุนปริญญาตรี โดยจะรับวีซ่าเป็นเวลา 5 ปีเลยโดย เพราะฉะนั้น
    นักเรียนต้องเตรียมตัวภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานเพียงพอที่จะต้องไป
    เรียนต่อภายในเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้นต้องสอบให้ผ่านพอดีกับเทอม
    การศึกษาใหม่ของหลักสูตรปริญญาตรี
  4. นักเรียนสามารถที่จะไปเรียนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยที่แตกต่าง
    หรือ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเดียวกันที่ได้รับทุนปริญญาตรี ความไม่สะดวก
    ที่จะเกิดขึ้นคือ นักเรียนต้องสอบให้ผ่านและมีเวลาในการสมัครขอทุน
    ต่อและการย้ายมหาวิทยาลัย

    • หมายเหตุ : ถ้านักเรียนไม่ไปเรียนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัย
      เดียวกัน จะต้องจ่ายเงินเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาอังกฤษอีก US$700.00 (second placement)
  5. ยกตัวอย่างสำหรับคนที่ต้องเรียนและรับทุนภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้ :
    If the student does not have required TOEFL/IELTS score,
    they need to attend ESL from Fall or Spring Semester. After 4
    months of study, they have four options;

    1. Study ESL next semester at the same institution.
    2. Study another ESL from next semester(We required $700USD for 2nd placement)
    3. Study Academic program with the same institution but need to pass the required TOEFL/IELTS score or need teachers recommendation.
    4. Study Academic program with different institution but need to pass the required TOEFL/IELTS.(We required $700USD for 2nd Placement)

หมายเหตุและข้อควรปฏิบัติในการเตรียมภาษาอังกฤษ :

  1. แนะนำให้นักเรียนให้เตรียมตัวในการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทยให้มากที่สุดที่จะมากได้ หรือให้ผ่านภาษาอังกฤษจากประเทศไทย จะเป็นการดีที่สุด เพราะการไปรับทุนเรียนในอเมริกานั้น นักเรียนจะเสียเวลาหลังจากสอบมัธยมหกเสร็จแล้วในเดือนมีนาคมเป็นอย่างช้า แต่จะไปเรียนภาษาอังกฤษในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเสียเวลาคอยไปอย่างน้อยเป็นเวลา 5 เดือน
  2. นักเรียนควรที่จะเตรียมการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ในระหว่างเรียนมัธยมหก เพราะเมื่อทราบว่าจะรับทุนแน่นอน ก็ใช้เวลาในการเตรียมภาษาอังกฤษควบคู่กับการเรียนมัธยมหกเท่านั้น ไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องการเรียนหรือกวดวิชาใดๆแล้ว (ในกรณีที่นักเรียนเรียนอยู่ในมัธยมปีที่ 5 และมีความสนใจที่จะรับทุนแน่นอนแล้วนั่นก็สามารถที่จะเตรียมตัวในเรื่องของภาษาอังกฤษได้แต่เนิ่นๆ ซึ่งเป็นผลดีกับนักเรียนค่อนข้างจะมากทีเดียว)
  3. เมื่อได้เตรียมตัวตามข้อ 2.แล้ว นักเรียนควรจะเข้าเรียนภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ (full time) หลังจากสอบเสร็จมัธยมหกแล้ว (เดือนมีนาคม) จะมีเวลาเต็มที่ประมาณ 4 เดือนก่อนเดินทางไปเรียนใน fall semester (เทอมหนึ่ง)
    1. ในหลักสูตรภาษาอังกฤษถ้าภาษายังไม่ผ่าน
    2. ไปเรียนในระดับปริญญาตรี ถ้าภาษาอังกฤษผ่านแล้ว (อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 31 พฤษภาคม)
  4. การเตรียมตัวของนักเรียนแต่ละคน ซึ่งมีผลและความรู้ภาษาอังกฤษไม่เท่ากัน จะได้รับคำแนะนำซึ่งแตกต่างกัน ให้มารับคำปรึกษาได้แต่เนิ่นๆหลังจากการตัดสินเข้าร่วมโครงการแล้ว

2. ทุนเรียนปริญญาตรี
ทุนส่วนใหญ่จะมาจาก Liberal Arts College and Universities หรือ มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนเป็นรูปแบบ Liberal Arts Education ซึ่งมีทั้งของเอกชนและรัฐบาล ส่วนวิชาที่ไม่อยู่ในข่ายได้รับทุน เช่นแพทย์ สถาปนิก เภสัชศาสตร์ นักบิน หรือวิชาที่เป็นงานด้านการวิจัย (research) เป็นต้น ส่วนนักศึกษาที่สนใจในวิชาเฉพาะทาง เช่นนักกีฬา นักดนตรี ฯลฯ ต้องแสดงเจตน์จำนงให้ชัดเจน เพื่อทางโครงการจะได้จัดสรรทุนซึ่งมีจำกัดให้

ทุนที่ให้เป็นทุนเรียนตั้งแต่ปีที่ 1ถึงปีที่ 4 หรือ นักเรียนที่ต้องการโอนหน่วยกิต ที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเพื่อไปเรียนต่อ

วัตถุประสงค์

วัตถุประสงค์ ให้นักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติที่เรียนอยู่ในประเทศไทนอกจาก นักเรียนที่เป็นสัญชาติอเมริกันเท่านั้น

1. มีโอกาสศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกาในระดับปริญญาตรี
2. ได้รับทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อโดยไม่ต้องชำระคืน
3. มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้วัฒนธรรมและประสบการณ์ในบรรยากาศนานาชาติ
4. มีโอกาสเลือกรับทุนได้ถึง 5 – 7 แห่งที่เหมาะสมหรือตรงกับวิชาเอกที่ต้องการ

คุณสมบัติและข้อมูลประกอบการพิจารณา

นักเรียนและนักศึกษาที่ต้องการรับทุนต้องมีความประสงค์จะพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษ และนักเรียนหรือนักศึกษาที่มีประสบการณ์สูงหรือเก่งภาษาอังกฤษจะไม่มีผลต่อการพิจารณาให้ทุน และผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • กำลังศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 5 หรือ 6
  • กำลังศึกษาชั้นปวช.
  • จบการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้ว
  • จบการศึกษาระดับปวช.แล้ว
  • ปัจจุบันกำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย (สามารถโอนรายวิชาได้)
  • สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา (สามารถโอนรายวิชาได้)
  • เป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนสัญชาติอเมริกัน
  • อายุไม่เกิน 25 ปี
  • มีผลภาษาอังกฤษตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด หรือสมัครรับทุนเรียนภาษาอังกฤษ 6 เดือน หรือ 1 ปี
  • ครอบครัวสามารถจ่ายเงินที่เหลือจากทุนที่ได้รับ
  • โครงการนี้รับประกันการรับทุนจาก 5 ถึง 7 มหาวิทยาลัย
  • ทุนที่จะได้รับ รวมค่าเล่าเรียน ค่าที่พักในมหาวิทยาลัยและอาหารวันละ 3 มื้อ ในช่วงเปิดเทอม
  • ทุนไม่รวม ค่าเดินทาง ประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายต่างๆ และหนังสือ (บางมหาวิทยาลัยจะให้ทุนรวมค่าประกันสุขภาพและหนังสือด้วย)
  • ไม่มีข้อมูลผูกมัดว่านักเรียนจะต้องจบการศึกษาจากสถาบันที่คัดเลือกให้ทุนเท่านั้น
  • ถ้าสถาบันใดใช้เกณฑ์เกี่ยวกับผลการทดสอบภาษาเพื่อรับเข้าศึกษา นักเรียนยังคงรักษาสิทธิ์ผู้รับทุนอยู่จนสามารถผ่านเกณฑ์ได้

ขั้นตอนการสมัคร ดำเนินการและค่าใช้จ่าย

เมื่อนักเรียนและนักศึกษา สามารถที่จะเข้าไปโหลดเอกสารได้จาก website หรือแจ้งความจำนงขอรับได้จากทางอีเมล์

เงื่อนไขการสมัคร

เนื่องจากมหาวิทยาลัยเปิดปีละสามเทอม รวมทั้งซัมเมอร์ (ซึ่งปกติจะให้นักเรียนทุนเรียนปีละสองเทอมเท่านั้น นอกจากกรณีพิเศษ) การเปิดรับสมัครในประเทศไทย จึงสามารถทำได้ตลอดทั้งปี เพราะการดำเนินการ การตระเตรียมต่างๆนั้น จะใช้เวลาขอนักเรียนแต่ละคนไม่เท่ากัน การจำกัดเวลาอาจจะทำให้เกิดการผิดพลาดขึ้นมาได้

1. เทอมแรกของปีการศึกษา (Fall Semester)
สำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ต้องการเข้าเรียนใน เทอมแรกของปีการศึกษา (Fall Semester) ประมาณปลายเดือนสิงหาคมของปี มหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา การดำเนินการเปิดรับสมัครนักเรียนทุนอย่างช้าที่สุดในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน (ระหว่างที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) และผู้สมัครจะต้องดำเนินการสมัครขอทุนให้เสร็จสิ้นอย่างช้าก่อน 31 มีนาคม ของปีที่จะเข้าเรียน
ยกตัวอย่าง

ก. สมัครเรียนอย่างช้าในเดือนตุลาคม 2555 จนถึง 31 มีนาคม 2556
ข. เพื่อเข้าเรียนในเทอมแรกของปีการศึกษาใน เดือนสิงหาคม 2556

2. เทอมสองของปีการศึกษา (Spring Semester)
สำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ต้องการเข้าเรียนในเทอมสองของปีการศึกษา (Spring Semester) ประมาณปลายเดือน มกราคมของปี มหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา จะเริ่มดำเนินการเปิดรับสมัครนักเรียนทุนในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน (ระหว่างที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) และผู้สมัครจะต้องดำเนินการสมัครขอทุนให้เสร็จสิ้นอย่างช้าก่อน 31 สิงหาคม ของปีถัดไปที่จะเข้าเรียน
ยกตัวอย่าง

ก. สมัครเรียนในเดือนตุลาคม 2555 จนถึง 31 สิงหาคม 2556
ข. เพื่อเข้าเรียนในเทอมสองของปีการศึกษาใน เดือนมกราคม 2557

3. สำหรับนักเรียนที่กำลังจะเข้าศึกษาในระดับมัธยมห้าและหกหรือเทียบเท่า
แต่มีความสนใจต้องการรับทุนนี้ ก็สามารถแจ้งความจำนงหรือสมัครขอรับทุนได้โดยไม่จำกัดเวลาในการสมัคร โดยทาง PELIC จะให้ทุนแก่ผู้ที่มาสมัครก่อนก็จะได้ก่อน ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ จนให้ทุนครบในแต่ละปี
4. สำหรับนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ระดับปวส. และมหาวิทยาลัย
มีจุดประสงค์จะโอนหน่วยกิตไปศึกษาต่อ ไม่ว่าจะเป็นสาขาวิชาเดิมหรือสาขาใหม่ก็ตามสามารถที่จะแจ้งความจำนงขอสมัครรับทุนได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกนักแต่ละคน

การลงทะเบียน

นักเรียนและนักศึกษาที่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้นและมีโอกาสสูงที่จะได้รับทุนจะต้องรีบดำเนินการโดยเร็วโดย

  • ชำระเงินค่าสมัครและเซ็นสัญญาเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง
  • ใบตอบรับการเข้าเรียน ผลการประเมินภาษาอังกฤษและเอกสารอื่นๆ จะต้องเสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดและขึ้นอยู่ที่การตกลงกันเป็นรายๆ ไป

หมายเหตุ: ในกรณีที่ทาง ACSA ทราบผลแน่นอนว่าผู้สมัครไม่ได้รับการพิจารณาข้อตกลงต่างๆ เป็นอันสิ้นสุด และ ผู้สมัครไม่ต้องจ่ายเงินค่าสมัครใตๆทั้งสิ้น

เอกสารประกอบการสมัคร

เอกสารประกอบการสมัคร (Document required) ในเบื้องต้น

  • ใบสมัครขอรับทุน
  • การสัมภาษณ์โดยที่ปรึกษาของ ACSA
  • ทะเบียนการศึกษาปัจจุบัน (Transcript) ระบุรายวิชาและกิจกรรมเสริมหลักสูตรต่างๆ (ศิลปะ กีฬา และ / หรืออื่นๆ) หากกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้ใช้ Transcript แสดงผลการเรียนภาคเรียนที่ 1 ด้วย
  • ทะเบียนการศึกษาระดับมัธยมปลาย หรือมัธยมศึกษาปีที่ 4 ขึ้นไป (ตัวจริงหรือสำเนา) ภาษาอังกฤษ
  • คะแนนเฉลี่ยและคะแนนสะสมของมัธยมปลาย (ต่อปีและเฉลี่ยทั้งหมด) ภาษาอังกฤษ
  • Resume ประวัติของนักเรียน (ถ้ามี)
  • ผลการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (ถ้ามี) (optional)
  • สำเนาพาสปอร์ต (ถ้ามี)
  • กรณีต้องการให้มีการโอนรายวิชาจากวิทยาลัยหรือ มหาวิทยาลัยเดิมจะต้องมีระเบียบการศึกษาซึ่งแสดงให้เห็นถึงรายวิชาที่เรียนและผ่านเป็นภาษาอังกฤษ (รายละเอียดของตารางเรียนอาจจำเป็น)

เงื่อนไข

1. เมื่อนักเรียนหรือนักศึกษาได้รับทุนแล้วจะต้องส่งเอกสารดังต่อไปนี้

– Recommendation letter 2 ฉบับจากครูหรือโรงเรียน

– Personal Essay เขียนเรียงความ ตามรายละเอียดทีกำหนดไว้
(ให้ดูเงื่อนไขจากเอกสารแนบ)
– Resume ประวัติของนักเรียน
– ผลสอบระดับภาษาอังกฤษที่กำหนดจะต้องมีผลสอบ TOEFL หรือ IELTS ซึ่งอายุไม่เกิน 2 ปี

ยกตัวอย่าง

ก. จะดีกว่าถ้าสามารถจัดการการสอบได้เร็วที่สุด เช่นในระหว่างที่เรียนมัธยมหก เพราะต้องยื่นผลภาษาอังกฤษไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคมของปีเดียวกัน
ข. ต้องไม่ลืมว่าถ้าสมัครช้าก็จะมีโอกาสเลือกมหาวิทยาลัยน้อยลง หรือทุนอาจจะหมดแล้ว

2. ถ้านักเรียนหรือนักศึกษายังไม่ได้ผลภาษาอังกฤษ ก็สามารถเลือกที่จะเข้าเรียนในค่ายภาษาในเมืองไทย ในหลักสูตร “University Preparation” หรือการเตรียมตัวเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย โดยใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาที่มีก่อนมหาวิทยาลัยเปิด และในกรณีที่นักเรียนและผู้ปกครองจะจัดการการเรียนภาษาอังกฤษเอง ก็เพียงแต่เอาผลการสอบภาษาอังกฤษตามเงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัยต้องการนำมายื่นเป็นหลักฐาน ก็สามารถทำได้เช่นกัน

3. สามารถสมัครขอทุนก่อนได้ถ้าเอกสารยังไม่ครบ แต่ว่าต้องรีบเตรียมตัวในการ
เรียนและส่งผลภาษาอังกฤษให้เร็วสุด เพราะฉะนั้นต้องมีการปรึกษาหารือกับทางเจ้าหน้าที่ของ PELIC และวางแผนการณ์ในเรื่องการเตรียมภาษาอังกฤษก่อนซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

การเตรียมตัวเพื่อเข้าเรียน

หลักสูตรภาษาอังกฤษที่ได้จัดเตรียมขึ้นมานั้น เป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ตัวบังคับสำหรับนักเรียนที่สนใจจะเรียนภาษาอังกฤษในการเตรียมตัว University Preparation Course เป็นหลักสูตรเพื่อเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอเมริกา (รายละเอียดตามเอกสารประกอบ)

“ดูแลบุตรหลาน และให้การแนะนำอย่างใกล้ชิด ตลอดระยะเวลาขอทุน จนนักเรียนเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย จากทีมงาน PELICและ ACSA”

Updated 8 May 2017